ความสัมพันธ์และการเข้าถึงพื้นที่ริมน้ำของเมือง Suzhou เวนิสแห่งตะวันออก
ณัชชา วัฒนมะโน
เมืองซูโจว ตั้งอยู่ใจกลางสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีและทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลเจียงซู อาณาเขตโดยรอบติดกับเซี่ยงไฮ้ทางทิศตะวันออก ติดกับเจ้อเจียงทางทิศใต้ ติดกับทะเลสาบไท่หูทางทิศตะวันตก และอยู่ติดกับแม่น้ำแยงซีทางทิศเหนือซูโจวมีระยะทางริมฝั่งแม่น้ำ 157.96 กิโลเมตรตามแนวแม่น้ำแยงซี มีคลองใหญ่ไหลผ่านเมืองจากทิศเหนือไปทิศใต้ ซูโจว มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4000 ปี ในอดีตมีการสร้างคลองขนาดใหญ่ทำให้ในอดีตเป็นศูนย์กลางการบริหารและการค้าของพื้นที่ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นภูมิภาคที่มีตลาดหลักในการปลูกข้าว มีการคมนาคมทางน้ำเป็นหลัก มีการขุดคลองย่อยคลองหลักเชื่อมต่อกัน ซูโจวมีสวนที่สวยงามราว 150 แห่งพร้อมวัด ศาลา และประติมากรรมหิน สวนหลายแห่งที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ถึงศตวรรษที่ 19 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี 1997 ในซูโจวมีเมืองน้ำโบราณทั้งหมดประมาณ 200 แห่ง มีโครงการปรับปรุงเมือง 192 โครงการ และยังเป็นเมือง Sponge City รับมือน้ำท่วม ด้วยการพัฒนารูปแบบของการอยู่ร่วมกันของผู้คน น้ำ และเมืองที่ยั่งยืน

จากบทความข้างต้นจะเห็นได้ว่า “น้ำ” เป็นส่วนหนึ่งของเมืองซูโจวตัเงแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและยังคงคิดถึงการอยู่อาศัยร่วมกับน้ำในอนาคตทั้งในด้าน การคมนาคม การค้าขาย การอยู่อาศัย น้ำดผ็นองค์ประกอบหลักในการดำรงชีวิตมี แต่มีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไปตามเวลา จากการที่ได้ไปเมืองซูโจวในครั้งนี้ทำให้เห็นความหลากหลายของรูปแบบของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น ย่านเกษตรกรรมเพาะปลูก แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ รวมไปถึงย่านธุรกิจ ทุกย่านในเมืองมีความเกี่ยวโยงกับคลองดั้งเดิมในเมืองซูโจวแต่เนื่องด้วยกฎหมายนโยบายการเกี่ยวกับมลภาวะทางน้ำของรัฐบาลทำให้รูปแบบการใช้พื้นที่ริมน้ำแบบดั้งเดิมเปลี่ยนไป ในแต่ละพื้นที่ของเมืองจะมีการเข้าถึงพื้นที่ริมน้ำและกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน ในบทความนี้จะแบ่งประเภทการเล่าเรื่องเป็น3พื้นที่การศึกษาได้แก่ 1.ชนบท 2.เมืองเก่า 3.เมืองใหม่
ชนบท พื้นที่นี้จะเป็นบริเวณที่ได้เห็นการใช้ชีวิตริมน้ำแบบดั้งเดิมได้มากที่สุดในบรรดา3พื้นที่ มีการใช้เรือ เพื่อการเดินทาง ขนส่งสินค้า การทำใช้น้ำจากธรรมชาติทำการเกษตร แต่ได้มีการพัฒนาในการทำบ่อเก็บน้ำ ขุดคูคลอง และประตูน้ำขนาดเล็ก สำหรับการดูแลพืชพรรณในสวนของคนในพื้นที่ มีการทำเขื่อนกันน้ำและทางเดินเข้าถึงพื้นที่ริมน้ำในรูปแบบโครงสร้างรูปแบบใหม่และการใช้วัสดุธรรมชาติในการใช้งานพื้น ที่ เช่น ดิน หิน ไม้ไผ่

เมืองเก่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่พยายามรักษาภาพลักษณ์ของเมืองในอดีต มีการสร้างภาพลักษณ์ของการจำลองเมืองและการใช้เรือในการสัญจรเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาทำกิจกรรม แต่ไม่ใช่วิถีชีวิตที่แท้จริง มีการผสมผสานรูปแบบอาคารเก่ากับ ใหม่อยู่ร่วมกัน ในบางย่านของเมืองเก่ามีการอยู่ร่วมกับร้านค้าสมัยใหม่ ทำให้การเดินระหว่างทางมีบรรยากาศที่แปลกใหม่ ในบางพื้นที่ริมน้ำมีการทำที่นั่ง การแสดงแสงสี รวมไปถึงพื้นที่จัดนิทรรศการให้ความรู้ขนาดเล็ก

เมืองใหม่ มีการทำโครงการพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเป็นจำนวนมาก เช่นโครงการ BIG’s Suzhou Museum of Contemporary Art Tops Out in China ผสมผสานสถาปัตยกรรมเข้ากับภูมิทัศน์ ทางเดินทอดยาวไปจนถึงทะเลสาบจินจี การออกแบบสถาปัตยกรรมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างน้ำกับดิน เมืองกับธรรมชาติผสมผสานสถาปัตยกรรมเข้ากับภูมิทัศน์ รูปแบบพื้นที่ริมน้ำในย่านธุกิจที่สามารถพบเห็นได้มีการพัฒนาในหลากหลายพื้นที่กิจกรรมโดยจากประสบการณ์ที่ได้เจอได้แก่ ทางเดินริมน้ำที่มีรูปแบบที่หลากหลาย การทำพื้นที่สาธารณะสนามเด็กเล่นและ community mall

ส่วนหนึ่งของโครงการ Living Water ครั้งที่ 2 Architectural Interventions of the Canals City in Suzhou จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 ถึง 3 มิถุนายน 2568 ณ เมืองซูโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ความร่วมมือระหว่างคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ Xi’an Jiaotong-Liverpool University (XJTLU) ได้รับทุนจาก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ KUSCI สำหรับนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ